วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

การอนุรักษ์สายพันธุ์ไก่พื้นเมือง

การอนุรักษ์สายพันธ์ไก่พื้นเมือง




การคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ไก่ 

โดยปกตินักเลงเล่นไก่ชนมักจะหวงพันธุ์ของแม่ไก่มากกว่าของพ่อไก่ เพราะถือกันว่าสายเลือดของแม่จะให้ได้ลูกไก่พันธุ์ที่ดี วิธีที่จะหาพ่อพันธุ์ให้ได้ไก่เก่ง ท่านต้องเป็นซอกแซกไปเที่ยวตามบ่อนไก่ชนบ่อย ๆ และคอยดูว่าไก่ตัวไหนที่เก่ง คือตีแม่น ชั้นเชิงดี หัวใจทรหด อดทน ไม่หนีง่าย ถ้าไก่ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวนี้ เวลาชนเสร็จแล้วชนะ หรือแพ้ จะตาบอดหรือไม่ก็ตาม เอามาทำพ่อพันธุ์ได้ (ตามตำราบอกว่าเอาไก่ที่แพ้มาทำพ่อไก่มันให้ลูกเด็ดนักแล) ท่านซื้อตอนนั้นราคาอาจจะไม่สูงนัก เพราะนักเลงไก่เขาไม่ค่อยเก็บเอาไว้ แต่ถ้าท่านไม่สามารถทำได้ดังกล่าว ท่านต้องไปหาซื้อเอาตามบ้านนักเล่นไก่ชน ส่วนแม่พันธุ์ก็ควรให้มีคุณสมบัติเหมือนตัวผู้ เพราะการผสมพันธุ์ ถ้าทำโดยวิธีการสุกเอาเผากินแล้วจะทำให้ท่านได้ไก่ดียาก เพราะกว่าจะรู้ว่าตัวไหนดีหรือไม่ดีต้องเสียเวลาอย่างน้อยประมาณ 9 - 10 เดือนวิธีคัดเลือกแม่พันธุ์ และแม่พันธุ์ไก่ โดยปกตินักนิยมเล่นไก่ชนมักจะเลือกสีเป็นอันดับแรก ดังนั้นไก่ที่จะนำมาเป็นพ่อพันธุ์ควรเลือกจากไก่ที่มีสีดังต่อไปนี้ 
1. สีเหลืองหางขาว
 









2. สีประดู่หางดำ เดือยดำ เล็บดำ ปากดำ (หรือปากคาบแก้ว)





 








3. สีเขียวเลา (มีสีเขียวสลับกับสีขาวทั้งตัว หางขาวด้วย) 









4. สีเขียวกา หรือเขียวแมลงภู่ (หางดำ)













เพราะโบราณกล่าวไว้ว่าไก่ 4 สีนี้เป็นสีที่รักเดิมพันมาก ชนได้ราคาแพง ไม่ค่อยแพ้ ส่วนไก่ สีอื่น ๆ นักเลงเล่นไม่นิยมเล่นกัน เพราะเข้าใจว่าเป็นไก่พันธุ์ผสมมาจากสายเลือดอื่น ที่ไม่ใช่ไก่ชนแท้ อาจจะผสมกับไก่โรดส์ หรือไก่เร็คฮอนก็เป็นได้ น้ำใจไก่พวกนี้จึงไม่ทรหดมาก สำหรับแม่พันธุ์นั้นเวลาใช้ผสมพันธุ์ ควรหาให้เป็นสีเดียวกับพ่อพันธุ์ เวลาให้ลูกจะได้สีเหมือนกัน
คุณสมบัติ และลักษณะของพ่อพันธุ์ไก่
นอกจากสีของไก่แล้ว พ่อไก่ควรมีคุณสมบัติ และลักษณะดังต่อไปนี้
1. ควรเป็นไก่ที่มีประวัติที่ดี เคยชนชนะจากบ่อนมาแล้ว
 
2. ปากต้องใหญ่ มีร่องน้ำ 2 ข้างปากลึก (ปากสีเดียวกับขา)
 
3. นัยตาควรเป็นสีขาว (หรือที่เรียกว่าตาปลาหมอตาย หรือตาสีขน สีเดียวกับสร้อยคอ)
 
4. คอใหญ่ และปล้องคอถี่ ๆ
 
5. หัวปีกต้องใหญ่ และขนปีกยาว
 
6. นิ้วเล็กเรียวยาว
 
7. เม็ดข้าวสารท้องแข้งใหญ่ และแข้งกลม
 
8. สร้อยคอยาวติดต่อกันถึงสร้อยหลัง
 
9. หางยาวแข็งและเส้นเล็ก
 
10. กระดูกหน้าอกใหญ่และยาว
 
11. เดือยใหญ่ และชิดนิ้วก้อยมากที่สุด
 
12. อุ้งเท้าบางและเล็บยาว
 
13. เกล็ดแข้งใสเหมือนเล็บมือ และมีร่องลึก

การเริ่มต้นเลี้ยงไก่ชน
การเริ่มต้นเลี้ยงไก่ สำหรับคนที่ไม่มีความชำนาญ ไม่เคยเลี้ยงไก่มาย่อมจะเป็นเรื่องหนักใจอยู่มิใช่น้อย แต่สำหรับผู้ที่เคยเลี้ยงมาแล้วจะไม่รู้สึกลำบากใจเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ดี ย่อมจะขึ้นกับหลักดังได้กล่าวข้างต้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะต้องมีทุนด้วย มิฉะนั้นจะพบกับความลำบากหลายประการ เป็นต้นว่าโรงเรือน เงินสำหรับซื้อไก่ และอาหารไก่ การเริ่มต้นเลี้ยงไก่ เริ่มได้หลายทาง คือ 
1. ซื้อไก่มาฟักเอง หรือจ้างเขาฟัก 
2. ซื้อลูกไก่คัดเพศแล้ว หรือลูกไก่คละเพศมาเลี้ยง ถ้าต้องการแม่ไก่ 10 ตัว จะต้องซื้อลูกไก่คละเพศมาเลี้ยงเป็นจำนวน 25 ตัว
 
3. ซื้อไก่รุ่นอายุประมาณ 8-10 อาทิตย์มาเลี้ยง
 
4. ซื้อแม่ไก่ไข่มาเลี้ยง การซื้อแม่ไก่มาเลี้ยงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ไม่ค่อยจะชำนาญในการเลี้ยงไก่ เพราะจะพบอุปสรรคน้อย ให้ผลเร็ว จะทำให้เกิดการเอาจริงเอาจังขึ้น
 
วิธีเลี้ยง 
1. แบบเลี้ยงปล่อย เลี้ยงแบบปล่อยให้หากินเอง เช่น ใต้ถุนบ้าน ลานบ้าน มักนิยมเลี้ยงตามชนบท โดยให้กินเศษอาหาร คุ้ยเขี่ยหากินเอง การเลี้ยงแบบนี้ส่วนมากถือเป็นงานอดิเรกเท่านั้น และมักจะมีอันตรายจากสัตรูและโรค ซึ่งอาจติดต่อโรคได้โดยง่าย 
2. เลี้ยงแบบครึ่งปล่อยครึ่งกัก การเลี้ยงแบบนี้ คือเลี้ยง ในลาน แต่มีรั่ว มีเล้าให้อยู่อาศัย ให้ออกกำลังกายได้ การเลี้ยงแบบนี้จะต้องให้อาหารพอดี
 
3. เลี้ยงแบบขึ้นคอน ไม่มีลาน ไก่อยู่บนพื้นมีคอนให้นอน มีรางอาหาร รางน้ำอยู่ในเล้าเสร็จ อาหารจะต้องหามาให้ โดยให้กินอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การเลี้ยงแบบนี้ ควรจะให้น้ำมันตับปลาด้วย เพื่อให้ไก่แข็งแรง โตเร็ว
 

โรงเรือน 
โรงเรือนโดยทั่วไป ควรมีลักษณะดังนี้ 
1. กันลม แดด ฝนได้ดี 
2. อากาศ ระบายได้สะดวก เย็นสบาย ไม่อับ มีกันสาดกันฝน
 
3. ป้องกันศัตรูต่างๆได้ดี
 
4. รักษาความสะอาดง่าย ไม่เป็นที่น้ำขัง พื้นไม่แฉะ ไม่รกรุงรัง
 
5. ห่างจากที่ชุมนุมชน พอสมควร มีการขนส่งสะดวก อาหารหาง่าย
 

การรักษาคุณภาพอาหารไก่ 
1. เมื่อผสมอาหารให้ไก่ ไม่ควรผสมมากเกินไป เพราะจะเสื่อมคุณภาพถ้าเก็บไว้นานเกินไป ควรผสมให้กินหมดภายใน 3-5 วัน เมื่อหมดแล้วจึงค่อยผสมใหม่ จะได้อาหารที่มีคุณภาพตามที่เราต้องการอยู่เสมอ 
2. อาหารที่ผสมไว้ ควรจะเก็บให้ดี สะอาดเรียบร้อย อย่าให้แดดส่องนานๆ หรือเก็บไว้ใกล้ความร้อน จะทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพ หรือเก็บไว้ในที่อับเกินไป และชื้นแฉะไม่มีอะไรรองรับ อาหารก็จะเสียและเสื่อมคุณภาพได้ 
3. อาหารที่ซื้อมาจากร้านค้า ควรจะพิถีพิถันสักหน่อย ควรตรวจดูว่าอาหารเก่า ใหม่แค่ไหน ถ้าเห็นว่าเก่าเกินไป หรือกลิ่นผิดปกติ ไม่ควรซื้อไปให้ไก่กิน 
ในเรื่องอาหารไก่นี้ควรเอาใจใส่เป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นตามสูตรหรืออาหารเสริม ถ้าให้ไม่ถูกต้องก็จะเป็นผลร้ายขึ้นได้ โดยเฉพาะคุณภาพของอาหาร ควรจะระวังให้หนัก ถ้าอาหารมีคุณภาพไก่กินเข้าไปก็จะเติบโตเร็ว คุ้มค่ากับเงินทองที่เสียไป แต่ถ้าให้อาหารที่มีคุณภาพต่ำ ผลร้ายจะเกิดขึ้นทันที 
การฟักไข่ 
วิธีฟักไข่แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ 
1. ฟักด้วยใช้แม่ไก่กก 
2. ฟักด้วยเครื่องฟัก โดยการซื้อเครื่องฟักมาฟัก มีทั้งเครื่องฟักที่ใช้ไฟฟ้า และเครื่องฟักที่ใช้ความร้อนจากแสงสว่างของตะเกียง 
การฟักไข่ด้วยตนเอง 
การฟักไข่ด้วยตนเอง โดยใช้ ตู้ฟัก เป็นประโยชน์สำหรับนักเลี้ยงไก่ เพราะจะได้เกิดความชำนาญในการฟัก ประหยัดเงินที่จะซื้อลูกไก่อื่นมาเลี้ยง ถ้าเราฟักเองก็จะได้ลูกไก่เลี้ยงจากพันธุ์ที่ดีและแน่นอน 

การเลี้ยงลูกไก่ 


1. เครื่องกก คือเครื่องทำให้เกิดความร้อนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ลูกไก่เหมือนกกด้วยแม่ เครื่องกกนี้จะใช้ไฟหรือใช้ตะเกียกก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสม ความร้อนที่ลูกไก่ต้องการ ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 อาทิตย์ ระหว่าง 90-95 องศาฟาเรนไฮท์ และค่อยๆลดลงอาทิตย์ละ 4 องศา จนถึง 80-85 องศาฟาเรนไฮท์ ถ้าอากาสหนาวควรจะกกต่อไปสัก 1-2 อาทิตย์ 
2. อาหาร เมื่อไก่แรกเกิดไม่ควรจะให้อาหารทันที เพราะมันมีอาหารสำรองอยู่แล้ว สัก 2-3 วันจึงค่อยให้อาหารละเอียด ใส่ภาชนะตั้งให้กินตลอดเวลา แต่ให้ครั้งละน้อยๆให้บ่อยๆ ถ้าให้มากลูกไก่จะกินมากจนเกินน้ำย่อยทำงาน จะเป็นอันตรายแก่ลูกไก่ได้ 
3. น้ำสะอาด ตั้งให้กิน 

การเลี้ยงลูกไก่ทั่วๆไป 
การเลี้ยงดูอาทิตย์แรก 
1. เมื่อลูกไก่ขนแห้ง เอาออกจากเครื่องกกหรือแม่ไก่ ตั้งน้ำและกวาด ทรายให้กิน วันรุ่งขึ้นตั้งอาหารให้กิน 
2. ใช้นมสดผสมให้กินครึ่งต่อครึ่ง ถ้ามีนมสด 
3. ทำรางอาหารยาวรางละประมาณ 1 ฟุต วางไว้ห่างๆ เพื่อให้ลูกไก่กระจายกิน ไม่ต้องแย่งกัน 
4. ควรจัดที่ลูกไก่ให้เพียงพอ อย่าให้คับแคบจนเกินไป 
5. ทำการฉีดวัคซีนป้องกัน โรคนิวคลาสเซิล และตรวจโรคอุจจาระขาว โดยการทำของสัตวแพทย์ 

การเลี้ยงดูอาทิตย์ที่ 2 


การเลี้ยงดูในระยะนี้ ก็ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษเช่นเดียวกัน เพราะไก่ยังไม่แข็งแรง มันจะตายในระยะนี้เสมอ การเลี้ยงดูก็ให้อาหารที่จะสร้างกำลังให้แก่ลูกไก่ คือ 
1. การให้กินอาหารป่นตลอดเวลา ให้กินผักสดวันละ 1-2 ครั้ง 
2. ตอนเย็นควรให้อาหารหยาบบ้าง 
3. เครื่องกกควรลดความอุ่นลง ในระยะนี้ควรจะแยกลูกไก่ เพื่อไม่ให้แออัดจนเกินไป 
4. หมั่นทำความสะอาดพื้นกรงขัง ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อฉีดหรือพ่น และเปลี่ยนที่รองพื้นบ่อยๆ พื้นสกปรกจะทำให้เกิดเชื้อโรคได้ 
5. ให้ลูกไก่ได้รับแสงแดดเช้าๆอยู่เสมอ การได้รับแสงแดดอ่อนๆจะทำให้ลูกไก่กระปรี้กระเปร่าขึ้น
 
การเลี้ยงดูอาทิตย์ที่ 3-6 
ระยะนี้ลูกไก่จะแข็งแรงขึ้น พอจะดูได้ว่าตัวไหนแข็งแรงและไม่แข็งแรง ตัวที่ไม่แข็งแรงควรแยกออกหรือทำลายเสีย การเลี้ยงดูคือ 
1. อาทิตย์ที่ 3 ลดความอุ่นลง พออาทิตย์ที่ 5 ไม่ต้องให้เลย 
2. ให้กินอาหารป่นอยู่ตลอดเวลา 
3. ให้กินเปลือกหอย โดยจัดไว้ต่างหาก 
4. จะเพิ่มอาหารหยาบขึ้นกว่าเดิมก็ได้ เพราะลูกไก่แข็งแรงพอแล้ว 
5. ควรขลิบจงอยปากออกเล็กน้อย กันจิกกันเอง จะทำให้เกิดบาดแผลรักษาหายยาก 
6. เมื่อเห็นว่าตัวไหนถูกจิกควรแยกออก เพราะมันจะถูกจิกซ้ำ กลายเป็นแผลรักษายาก 

การเลี้ยงดูอาทิตย์ที่ 7-16 





ในระยะนี้เป็นระยะไก่รุ่น ไก่แข็งแรงดีแล้ว การเลี้ยงดู 
1. แยกลูกไก่ตัวผู้และตัวเมียออกจากกัน 
2. ให้น้ำและอาหารกินพอเพียง 
3. มีที่บังแดดและลม เพราะไก่ถูกลมโกรกจะเป็นหวัดได้ง่าย 
4. รักษาโรงเรือนให้สะอาดอยู่เสมอ 






การเลี้ยงไก่รุ่น 
1. ลักษณะที่ควรคัดออก 
- ขนดกยุ่งและด้าน ขนงอกช้า โตช้า 
- หน้าซีด ขาวเผือด อมโรค ตาขุ่นและลึก 
- หงอนและเหนียงเล็ก หด สีแดงช้ำๆเป็นขุย 
- อ่อนแอโตช้า 
- รูปร่างไม่ได้ส่วน ลำตัวโพลก 
- หน้าแข้งและปากสีขาวซีด 
- อ่อนแอ หัวยาวแหลมคล้ายหัวงู หรือหัวกา กระดูกหน้าอกคด 

2. ลักษณะที่ควรเก็บไว้ 
- ขนดกลื่นเป็นมัน ขนงอกเร็วและโตเร็ว 
- หน้าตาสดใส ตาโต ตาไม่เด่นนูน ไม่จมลึก 
- หงอนและเหนียงโตงามสีแดงสดเงาเป็นมัน 
- แข็งแรง ว่องไว สมบูรณ์ เคลื่อนไหวเป็นปกติ 
- ลำตัวลึกและตัน รูปร่างสมส่วนใหญ่เนื้อหนังดี 
- หนังแข็ง ปากสีเหลืองเข้ม 
- แข็งแรง ลักษณะตรงตามพันธุ์ หัวสวยสง่า 
- กระดูกหน้าอกตรง 


 การเพิ่มมูลค่าของไก่พื้นเมือง
           เป็นวิธีแบ่งปันผลประโยชน์ให้เกษตรกรได้อีกวิธีหนึ่ง เช่น ไก่แจ้พื้นเมืองขนสีทอง ดำ หรือสีประดู่ เป็นต้น เป็นไก่สวยงามราคาแพง หรือไม่ก็สายพันธุ์ไก่ชนก็ดี เพราะถ้าชนเก่ง สายเลือดชนเก่ง ก็สามารถขายได้ราคา อีกประการหนึ่ง ไก่ชนเป็นไก่สายเลือดค่อนข้างบริสุทธิ์ และเป็นไก่ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยมานับร้อยๆ ปี นอกจากนี้ยังเป็นไก่ที่แข็งแรง ไม่ขี้โรค กล้ามเนื้อใหญ่ ไข่ดก ลูกดก ฟักไข่ได้เอง และเมื่อนำมาประกอบอาหารมีรสชาติดี ดังนั้น การเลือกพันธุ์ที่อนุรักษ์ก็สามารถเพิ่มมูลค่าของไก่สายพันธุ์นั้นๆ ได้ อย่างไรก็ดี ไก่พันธุ์พื้นเมืองที่มีอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ คาดว่า 80-90% เป็นไก่ที่เป็นสายพันธุ์ไก่ชน ดูได้จากแม่ไก่ประมาณ 90% จะมีขนสีดำ ตัวผู้จะเป็นไก่ขนเหลืองหางขาว หรือประดู่หางดำ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น